Last updated: 13 ก.ค. 2561 | 5850 จำนวนผู้เข้าชม |
การศึกษาวิจัยพบว่ามีแนวโน้มว่าการรักษาแผลเป็นด้วยเลเซอร์และซิลิโคนเจลควบคู่กัน จะเสริมให้มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลเป็นให้ดีขึ้น
อ.นพ.ศุภะรุจ เลื่องอรุณ
นับตั้งแต่ปี 2551 ที่ลาโรช-โพเซย์ เวชสำอางชั้นนำจากฝรั่งเศส นำโดย วิภาวี ทับสกุล ผู้จัดการทั่วไป แผนกแอ็กทีฟ คอสเมติกส์ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) ได้ริเริ่มโครงการเอเชียแปซิฟิก ลาโรช-โพเซย์ ฟาวน์เดชั่น เพื่อมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนักวิจัยรุ่นใหม่ในสาขาตจวิทยา เพื่อผลิตผลงานวิจัยที่สนับสนุนความเข้าใจและพัฒนาการรักษาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ในสาขาตจวิทยา โดยประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักวิจัยส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ อ.นพ.ศุภะรุจ เลื่องอรุณ สาขาตจวิทยา วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหนึ่งในแพทย์ที่ได้รับรางวัลในสาขาคลินิคัล เปเปอร์ จากลาโรช โพเซย์ ฟาวน์เดชั่น ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กับผลงานวิจัย “Efficacy of Combination of Ablative Fractional Carbon Dioxide Laser Combined with Silicone Gel Compare with Silicone Gel and Laser alone in the Treatment of Hypertrophic Scar and Keloid: A Split-lesion, Doubleblind, Randomized, Controlled Study” โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยพร้อมประกาศนียบัตร
อ.นพ.ศุภะรุจ เผยว่า คงไม่มีใครอยากจะมีรอยแผลเป็นน่าเกลียดอยู่บนร่างกายของเราไปตลอด ซึ่งรอยแผลเป็นนับเป็นปัญหาใหญ่ในจิตใจของคนไข้โดยเฉพาะในผู้หญิง และด้วยความที่คลุกคลีอยู่กับคนไข้ที่มีปัญหาแผลเป็นและแผลเป็นนูนค่อนข้างเยอะ จึงเห็นว่าการรักษาที่มีอยู่ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้อย่างเต็มที่ ทำให้สนใจศึกษาแนวทางในการรักษาเพิ่มเติม โดยปกติการรักษาแผลเป็นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีซึ่งวิธีที่นิยมทำกันคือ การฉีดสเตียรอยด์เข้าแผลเป็น แต่ปัญหาจากการรักษาแบบนี้ที่พบบ่อย คือ เกิดแผลฝ่อ เส้นเลือดขยายตัว หรือแผลไม่สม่ำเสมอ จึงมีการใช้เลเซอร์มาช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาแต่ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิภาวี ทับสกุล
“เหตุนี้ทำให้เข้ามาศึกษาถึงวิธีการรักษาแผลเป็นและแผลเป็นนูนโดยการใช้เลเซอร์ โดยลักษณะการวิจัยคือ ผลของการเลเซอร์ที่ทำให้เกิดแผลชนิดแบ่งส่วนร่วมกับการใช้ซิลิโคนเจลจากแบรนด์เวชสำอางมาเปรียบเทียบกัน โดยผลจากการศึกษาวิจัยพบว่ามีแนวโน้มว่าการรักษาด้วยการใช้เลเซอร์และใช้ซิลิโคนเจลควบคู่กันจะเสริมให้มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลเป็นให้ดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากซิลิโคนเจลจากแบรนด์เวชสำอางมีสารที่ช่วยเสริมให้แผลเป็นเนียนเรียบเสมอกันได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความแรงของการใช้เลเซอร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องวิจัยเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ดีทั้งแผลเป็นและแผลเป็นนูนสามารถเกิดซ้ำได้ เพราะการเกิดแผลเป็นขึ้นอยู่กับพันธุกรรมด้วย บางคนไวต่อการเกิดแผลเป็นมาก ดังนั้นถ้าเกิดแผลแล้วเราควรรีบรักษาเบื้องต้น เช่นการใช้แบรนด์เวชสำอางที่หาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำที่ช่วยซ่อมแซมผิวและลดเลือนรอยแผลเป็นในขั้นต้น แต่ถ้าเกิดรอยแดงยังไม่จางหายก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพราะยิ่งทิ้งไว้จะยิ่งทำให้การรักษายากขึ้น” ผู้เชี่ยวชาญแนะ
Cr: คม ชัด ลึก 20 พ.ค. 2561
http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/326327